We've moved!

My blog had its new home.

Like I said before, this blog is not really official. Now that I got a new server, I'm going WordPress.

You can find me at http://lunaticneko.com/blog for the new blog. Thanks for bearing with my many blog moves.

This one will remain up in case I need to scavenge old data and/or there are more people led through the old link. I hope I don't lose too much PageRank for this...

Thank you very much,
LunaticNeko.

2008-02-03

เขาชนไก่ ปีสอง

"น้าบบบบบ ก้าว!"
"1~~~~ 2."
"น้าบบบบบ ใหม่!"
"1~~~~ 2!"
"ไม่ พอ ใจ!"
"1~! 2!!"
"ต่อออออออ ไป!"
"3~~~~ 4, 1~~~ 2, 3 4 1!!"

เสียงนี้ช่างเป็นเสียงที่คุ้นหูนักเรียนชายหลาย ๆ คนเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นคนที่เปล่งวาจาเพื่อนับตัวเลขออกมา คนที่สั่งให้คนอื่นนับ คนที่ปากไม่พูดเท้าลากทราย (ฝุ่นตลบ) หรือแม้กระทั่งคนที่อ้าปากแต่แท้ที่จริงแล้วมันหน้าแดงแรงไม่มี ก็ว่ากันไป

ที่นี่ ที่ๆ นักศึกษาวิชาทหารทุกคนรู้จัก ผู้มีการศึกษาทุกคนรู้จัก กว่าสองร้อยปีมาแล้ว ที่นี่ได้เป็นสิ่งซึ่งจารึกประวัติศาสตร์ทางการทหารของประเทศไทยไว้ ในฐานะของสมรภูมิรบที่มีความสำคัญต่อสยามประเทศในสมัยนั้นอย่างยิ่ง ทัพของฝ่ายไทยสี่ทัพ สามารถหยุดยั้งการบุกรุกดินแดนจากพม่า ที่ใช้กำลังพลมากถึงเก้าทัพ ที่นี่คือทุ่งลาดหญ้า สถานที่แห่งประวัติศาสตร์ ที่นักรบไทย (แน่นอน พม่าด้วย) ได้สละเลือดเนื้อ ชีวิต น้ำตา หยาดเหงื่อ และฝังเอาจิตวิญญาณแห่งนักรบไว้ที่นี่ คอยให้พวกเรา - นักศึกษาวิชาทหาร - ได้สานต่อซึ่งอุดมการณ์ความรักชาติ ความรู้รักสามัคคี และจิตใจที่ตั้งมั่นเสียสละเพื่อแผ่นดิน ที่นี่ เป็นที่ๆ เหล่าดวงวิญญาณทั้งหลายเหล่านั้น ได้เฝ้าดูลูกหลานของแผ่นดิน เติบโตเป็นกำลังสำคัญของชาติ สมดังคำขวัญ "นักศึกษาวิชาทหาร คือ ลูกหลานของแผ่นดินไทย" ทุกประการ

ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ทุ่งลาดหญ้า และเขาชนไก่

จริง ๆ แล้ว การฝึกชั้นปีที่สองนั้นไม่มีอะไรเลยครับ แค่กล้าลุยนิดเดียวก็ใช้ได้แล้ว ที่เหนื่อยสุดก็คือการใส่หมวกเหล็ก ไถแถกๆๆๆๆ บนทราย (หงาย ถอยหลัง) เพื่อลอดลวดหนาม นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรยากครับ ผมยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่เลยนะเนี่ย จริงจริ๊งงงง (เหรอฟระ แล้วที่กลับมาบ้านแล้วแก้สมการตรีโกณไม่ได้หมายความว่ายังไง????)

เตรียมตัว

อุปกรณ์ที่อยากให้เตรียมไป (นอกจากเครื่องแบบนะ):
  • ชุดฝึก ไม่ต้องหรอกครับ ถ้าไม่ชัวร์ก็เอาไป 1 ชุด (ซื้อหรือยืมก็ได้ครับ)
  • เสื้อยืด รด 2 ตัว
  • กางเกงใน 2 ตัว (ไม่ต้องกลับหน้าหรอกครับ ลงทุนหน่อย)
  • เครื่องสนาม เตรียมให้ครบ
  • ปากกา สมุด โดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้าหมวด กองร้อย กองพัน (จดนิดหน่อย เพราะถ้าจดมากเพื่อนด่า ไม่จดครูโวย ผมเกือบโดนเพื่อนต่อยหน้าเพราะจดมากเกินไปครับ)
  • อุปกรณ์อาบน้ำแปรงฟัน ไม่ต้องเยอะนะครับ วันละครั้งเอง
  • ยาประจำตัว แป้ง (เผื่ออับมาก) กย.
  • ช้อน (แนะนำช้อนสั้น เพราะใส่กระเป๋าเสื้อได้ ผมเก็บติดตัวตลอด ไม่หาย สะอาดด้วย เพราะสอดไว้ระหว่างทิชชูสองแผ่น)
  • อาวุธ ยาเสพติด ผ้าอนามัย ไม่ต้องนะครับ (ผ้าอนามัย ทางกองพันขอมาว่ามีพวกชอบทิ้งเกลื่อนครับ สกปรก)
  • ฯลฯ สัพเพเหระ ตามคู่มือบอกเลยครับ
เรื่องสายเก่งนั้น อยากให้เอาติดไปครับ เพราะถ้าคาดเข็มขัดสนามอย่างเดียว มันก็จะรั้งข้างเดียวครับ เอวหรือสะโพกข้างที่ไม่ได้ห้อยกระติกจะแบกน้ำหนักเพิ่มครับ เพราะโดนเข็มขัดสนามรั้ง แต่ถ้ามีสายเก่งด้วย มันจะแบ่งไปถ่วงไหล่ครับ ***ควรปรับสายทั้งหมดให้พอดี และทำแต่เนิ่น ๆ จะได้ไม่วุ่นวายครับ

กระติกน้ำ ควรล้างให้สะอาด หากปากกระติกคมก็ควรตะไบออกเพื่อลบเหลี่ยมก่อน และถ้าเป็นไปได้ ให้หาขอบยางสำหรับกันรั่วใส่ไปด้วย ถ้าหาไม่ได้ เอาถุงพลาสติก (Food Grade นะ ไม่เอาก๊อบแก๊บ) ครอบก่อนปิดก็ได้ครับ

รองเท้า ขัดไปเลย แล้วไม่ต้องขัดอีก เพราะมันจะหมดสภาพหลังกลับมา!!!

วัน ว.

ออกจากบ้านให้เร็ว เพราะต้องไปถึง "สวนเจ้าเชตุ" (หรือบางคนเรียก "สวนเจ้าเชษฐ์") ก่อนหกโมงเช้า ที่นั่นจะมีแผงขายของแบบ last-minute ก่อนออกเดินทาง ใครจะซื้ออะไรรีบซื้อ มีห้องน้ำให้เข้าด้วย และเกาะกลุ่มเพื่อนไว้ดี ๆ จะได้ไม่โดนแยกรถครับ

เนื้อหาในวันนี้ จะเป็นเนื้อหาทฤษฎีเสียมากกว่าปฏิบัติ เพราะกว่าจะไปถึงทุ่งลาดหญ้าและเปิดการฝึก กว่าจะจัดกองร้อยกันได้ก็นานพอควร การเลือกคู่นอน (ตามที่ผมได้นะครับ) คือ เลือกใครก็ได้ในหมวดเดียวกัน แล้วยืนแถวตอนสองแถว คนที่อยู่ตับติดกันจะได้เต็นท์ติดกันด้วย

การเลือกหมวด และกองร้อย จะใช้การเข้าแถวแบบเต็มสิบ (กี่สิบก็เท่านั้นกองร้อย) และทุก ๆ ห้าแถวจะถือเป็นหนึ่งหมวด ตัดสิบเอ็ดตับแนวหน้ากระดานอีกที แล้วเอาเศษไปประกอบกัน ก็จะได้กองพันออกมาอย่างสวยงาม โดยที่แต่ละบล็อก 5*11 จะเป็นหนึ่งหมวดครับ (?)

อย่างที่บอกไป เนื้อหาเป็นทฤษฎีซะมากกว่าปฏิบัติ เข้าฐานนั่งฟังบรรยายไปเรื่อย ๆ ระหว่างเดิน ห้ามเตะฝุ่น เพราะจะทำให้เพื่อนเดือดร้อนครับ!!!

อาหารการกิน เสิร์ฟในถาด ล้างเอง เก็บเอง การอาบน้ำและการนอน แล้วแต่พฤติกรรม ยิ่งทำตัวดียิ่งได้พักมาก เพราะครูเขาก็ไม่ได้อยากตะโกนอีกหรอกครับ หลังจากที่เราเหนื่อยกันมาทั้งวัน

การเข้าเวร ศึกษาตารางเวรไว้ให้ดีครับ เขาจะจัดเวรตามเต็นท์ไป และขอให้ทุกคนจำสัญญาณผ่านไว้ เผื่อต้องใช้ครับ ถ้าเราเป็นเวร เจอใครเข้ามาในเขตกองพัน เราต้องถาม ถ้าเขาตอบไม่ได้ก็ไม่ให้เข้า (แน่นอน รวมถึงผู้บังคับบัญชาและนายทหารใด ๆ ก็ตามที่บอกสัญญาณผ่านไม่ถูก) และในทางกลับกัน ถ้าเรากลับเข้าที่ตั้งเองแล้วตอบไม่ได้ก็เตรียมนอนตากฝุ่นได้เลย

อากาศตอนกลางคืนไม่หนาวเสมอไปนะครับ!!

วัน ว+1

เอาละ วันนี้จะเหนื่อยหน่อย เพราะจะต้องเข้าป่าทั้งวัน และมีการฝึกกลางคืนด้วย หลังจากออกจากกองพันไปแล้วจะได้กลับมาอีกทีก็ดึกไปเลย เนื้อหาวิชาจะมีปฏิบัติมาก เพราะฉะนั้น ใครป่วย ใครมีโรคประจำตัว ต้องแจ้งครูก่อนเข้าฐานฝึกหรือก่อนออกจากกองพันเสมอ (ในเวลาพักก็ได้ครับ)

การฝึกจะทำให้เพื่อน นศท. ทุกนาย กลายเป็น นศท. ชุบแป้งทอด โดยไข่ที่ใช้จะเป็นทรายเนื้อละเอียดแห่งทุ่งลาดหญ้า (ในหน้าแล้ง) ส่วนเกล็ดขนมปังก็คือเศษกิ่งไม้ที่อาจติดมาได้นั่นเอง กระทะใบใหญ่ตั้งอยู่บนเปลือกโลก มีนามว่า "สถานีฝึก" และ นศท. ทุกท่าน ก็จะต้องโดนคั่วอยู่บนนั้นทั้งวันแน่นอน

อนึ่ง กระผมแนะนำให้ นศท. ทุกท่าน นำช้อนติดตัวไปเสมอ เนื่องจากต้องกินอาหารนอกที่ตั้งทั้งวัน ดังนั้น หากไม่ได้หยิบช้อนออกมาจากเต็นท์ในตอนเช้า ท่านอาจต้องแชร์เพื่อนใช้ทั้งวันไปเลยก็เป็นได้!!

ในตอนกลางคืน ก็จะมีการฝึกนิดหน่อย ประกอบระบบ Light & Sound เพิ่มสีสันในการฝึก ให้ นศท. ทุกนายจดจำค่ำคืนนี้ได้ดีทีเดียว (ห้ามเปิดไฟฉาย เพราะจะทำลายบรรยากาศอย่างมาก)

อาจได้อาบน้ำอีกถ้าทำตัวดี ๆ ครับ

วัน ว+2

วันสุดท้ายแล้ว ตื่นมาเก็บของกลับบ้าน (แนะนำให้เอาทุกอย่างลง rucksack ตั้งแต่ก่อนนอนเลยครับ แล้วตอนเช้าค่อยยัดแปรงสีฟัน ถุงนอน ผ้ารองนอน ตามลงไป) เก็บขยะ ซ่อมเต็นท์ (ถ้ามันหย่อน) ฯลฯ

แต่ภารกิจยังไม่จบสิ้นนะครับ เราจะฝึกลาดตระเวนกันอีกนิดหน่อย แล้วค่อยกลับกันครับ ตอนกลับ เราก็จะทำย้อนกลับกับตอนมา คือ เอาของขึ้นรถ ไปทำพิธีปิด (ซึ่งเหมือนกับพิธีเปิด) แล้วกลับกรุงเทพฯ ลงที่สวนเจ้าเชตุเหมือนเดิม แล้วกลับบ้าน ใครที่คิดจะเอา "น้ำหลวง" กลับบ้าน อย่าหวังครับ เพราะความร้อนจะทำให้ท่านและเพื่อน ๆ กินหมดเสียก่อน

หลังจากวันนั้น ท่านจะพบว่า ความทุกข์ที่เกินทน จะหลอมคนให้ทนทาน แต่ก็จะลด Int ท่านลงไปเช่นกัน T_T

Debriefing and Aftermath

หลังจากลงรถที่สวนเจ้าเชตุ ท่านก็จะถูกต้อนออกจากเขตทหารอย่างรวดเร็ว แนะนำให้ผู้ปกครองเอารถมารับท่านกลับ โดยนัดกันไกล ๆ หน่อย (แต่ไม่เอาสนามหลวงนะครับ มันกว้าง 555+) เพราะถ้าท่านใช้ขนส่งมวลชน ท่านอาจสร้างความเดือดร้อน (เล็กน้อย) ให้กับผู้อื่นครับ

ประสบการณ์ที่ได้รับอาจเป็นเหมือนเรื่องไร้สาระ แต่ใครจะไปรู้ละครับ สักวันเราอาจต้องเป็นเจ้าคนนายคน ปกครองคนเป็นร้อย ๆ ถ้าเราไม่เริ่มฝึกตัวเราเองให้มีวินัย แล้วเราจะไปสั่งสอนให้ใครมีวินัยได้ล่ะครับ?

ป.ล. ใครคิดจะฝึกเพื่อหนีทหาร อย่างน้อยช่วยให้ความร่วมมือในค่ายด้วยครับ เพื่อน ๆ จะได้ไม่เดือดร้อน

No comments:

Post a Comment